วิธีติดกล้องหน้ารถมีกี่แบบ ราคาติดตั้งเท่าไหร่?

จริงๆแล้ว การเดินสายติดกล้องหน้ารถเป็นเรื่องง่าย ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เป็นหญิงหรือชายก็ทำได้ง่ายด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องว่าจ้างใครทำให้เลยเพราะวิธีการเดินสายกล้องนั้นเพียงแค่เดินตามขอบรถยนต์และขอบยางรถยนต์เท่านั้น

แต่กลับกันหากคุณไปร้านขายกล้องติดรถยนต์ที่เชี่ยวชาญบางร้าน
คุณอาจจะไม่เข้าใจในคำถาม เมื่อเขาถามคุณว่า
“คุณต้องการติดตั้งกล้องติดรถแบบไหน?”

คุณอาจนึกในใจว่า
“อ้าว มันก็ไม่ใช่แค่เดินสายเสียบกับช่องจุดบุหรี่รถยนต์ก็จบแล้วเหรอ?”

ใช่ครับ เพราะการติดตั้งกล้องหน้ารถ มันไม่ได้มีเพียงวิธีนั้นวิธีเดียว

ทำให้บทความนี้เราจึงขอนำเสนอประเด็นที่น่าสนใจ คือการติดตั้งกล้องติดรถยนต์ โดยร้านรับติดตั้งกล้องติดรถยนต์ที่เชี่ยวชาญนั้น จะไม่ได้มีการติดตั้งแบบเดียว

เราจึงขอนำคำถามที่แทบ 80-90% ของลูกค้าหน้าร้านเราก็มีคำถามเช่นเดียวกับคุณ

เมื่อเราถามคำถามว่า
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าอยากติดตั้งกล้องติดรถยนต์แบบไหนดีครับ?”

ทุกคนล้วนมีเครื่องหมาย ? บนหัว
แล้วมักจะถามพวกเรากลับว่า
“แล้วมันมีแบบไหนบ้างเหรอคะ?”

สารบัญ

• วิธีติดกล้องหน้ารถมีกี่แบบ? มีแบบไหนบ้าง?
• วิธีการติดแบบมาตรฐาน
• วิธีการติดตั้งด้วยอุปกรณ์ฟิวส์แท็ป (Fusetap)
  – Fusetap ที่ดีสำหรับกล้องติดรถหน้าตาเป็นอย่างไร?
  – การติดตั้ง Fusetap ส่งผลให้หมดประกันรถยนต์ไหม?
• วิธีการติดตั้งด้วยสายต่อตรง (Hardwire)
• วิธีการติดตั้งด้วยสาย OBD Power II
• เราสามารถติดตั้งเองได้ไหม?
• วิธีติดตั้งที่ไม่แนะนำและข้อควรระวังในการติดตั้งกล้องหน้ารถที่ร้านรับติดกล้องชอบทำกัน
• ค่าติดตั้งกล้องติดรถยนต์ราคาเท่าไหร่?
• บทสรุป

 

วิธีติดกล้องหน้ารถมีกี่แบบ? มีแบบไหนบ้าง?

หากคุณกำลังคุ้นเคยในรูปแบบของการเดินสายไฟกล้องติดรถที่ปลายสายต้องเสียบกับช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์เดิม (หรือรถสมัยใหม่เราเรียกช่องนี้ว่า Power Socket) ก็ไม่ถือว่าเข้าใจผิดครับ

วิธีนั้นเราเรียกว่าเป็นวิธีมาตรฐาน ที่ไม่ว่าจะเป็นร้านขายกล้องติดรถยนต์ ร้านติดกล้องติดรถยนต์ หรือร้านประดับยนต์ทั่วๆไปล้วนทำกันได้อยู่แล้ว

(แบบไม่จำเป็นต้องว่าจ้างก็ได้หากสะดวกทำด้วยตัวเอง) หรือดูคลิปที่ผมเคยทำแนะนำเมื่อหลายปีที่แล้วได้ตรงนี้ครับ

(ขออนุญาตเรียนว่า ปัจจุบันทางบริษัทเราไม่มีบริการติดตั้งฟรีแล้ว นะครับ เพราะอายุเรามากขึ้นติดตั้งให้เองไม่ไหว ผมก้มๆเงยๆจนหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทไปแล้ว)

แต่ว่าในร้านขายกล้องติดรถยนต์ที่เชี่ยวชาญโดยตรง จะมีรูปแบบการติดกล้องหน้ารถที่เพิ่มขึ้นมาจากปกตินิดหน่อย เพื่อแก้ปัญหาผู้ใช้งานในอีกระดับ

เพราะคนส่วนใหญ่พบว่า จริงๆแล้ว พวกเขาเหล่านั้น ล้วนไม่อยากให้มีสายไฟมาเสียบกับช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์เดิม

อาจเป็นเพราะเหตุผลที่ว่า มีอุปกรณ์ที่ต้องรอชาร์ตไฟในอนาคต หรือ มีการใช้ช่องนี้เป็นปกติในการชาร์ตโทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว

หรืออาจมีเหตุผลเหมือนรถยุโรปบางรุ่นที่มีบานพับเลื่อนเปิดปิดช่องจุดบุหรี่รถยนต์ ทำให้การเสียบสายคาช่องนี้ไว้จะส่งผลให้ฝุ่นเข้าไปซึ่งสกปรกไม่น้อย

(แม้ว่าคุณผู้อ่านบางคนอาจคิดว่ามันก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา แต่ผมอยากเรียนตอบตามอายุที่เข้าวัยกลางคนแล้วว่า)

(อย่าเอาสิ่งที่เราเป็นไปยัดเยียดว่าคนอื่นต้องคิดเหมือนกันหมดนะครับ มันจะเป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าเราไม่น่ารักเอาเสียเลย)

การติดตั้งนอกเหนือจากแบบมาตรฐาน จะมีการใช้อุปกรณ์อื่นร่วมด้วย เช่น การติดตั้งด้วยอุปกรณ์ฟิวส์แท็ป (Fusetap) , การติดตั้งด้วยสายต่อตรง (Hardwire) และ การติดตั้งด้วยสายในรูปแบบ OBD

กลับสู่สารบัญ

วิธีการติดตั้งแบบมาตรฐาน

เป็นวิธีที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนเดินสายให้เป็นระเบียบเก็บตามผนังและขอบยางประตูของรถยนต์ บางท่านไม่เห็นความสำคัญตรงจุดนี้และมักเดินสายห้อยจากกล้องลากลงมายังช่องบุหรี่ตรงๆ

ข้อเสียของการขี้เกียจเดินสายและห้อยลงมาตรงๆ นอกจากจะเกะกะสายตาแล้ว เมื่อใช้ไปนานๆส่วนใหญ่สายที่หักงอตามน้ำหนักของช่วงสายที่ทิ้งตัวลงมามักจะส่งผลให้ สายไฟอาจหักหรือขาดในที่สุด และ ทำให้คุณต้องเสียเงินซื้อสายชาร์ตใหม่โดยไม่จำเป็น

วิธีนี้ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองครับ

การติดตั้งแบบมาตรฐานที่ช่างติดตั้งให้ อาจแตกต่างจากที่เราทำเอง เพราะจะเรียบร้อยกว่า มีการแกะชิ้นส่วนที่จำเป็น หรือทำช่องเดินสายไฟให้ เพื่อความเรียบร้อย สายไฟไม่หัก ทับ งอ จนเสียหาย ในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ และฝีมือช่างติดตั้งในแต่ละร้านด้วย

กลับสู่สารบัญ

 

วิธีการติดตั้งด้วยอุปกรณ์ฟิวส์แท็ป (Fusetap)

หากคุณไม่อยากให้ปลายสายชาร์ตเสียบคาไว้กับช่องจุดบุหรี่เดิม ก็ต้องวิธีนี้แหละครับที่ปลอดภัยกว่าการตัดต่อสายไฟแบบที่ร้านประดับยนต์ทั่วไปทำกัน

Fusetap เป็นอุปกรณ์ที่หากให้ผมเรียกแบบภาษาเข้าใจง่ายๆ คือ ปลั๊กพ่วงไฟจากกล่องฟิวส์ในรถยนต์ หรือพูดภาษาพ่อบ้านง่ายๆว่า มันทำหน้าที่คล้ายๆปลั๊กสามตาหรือปลั๊กพ่วงไฟที่ต่อจากไฟบ้านเพื่อเพิ่มช่องจ่ายไฟให้อุปกรณ์อื่นนั่นเอง

อุปกรณ์ Fusetap เป็นที่นิยมกันในงานติดตั้งกล้องติดรถยนต์ในต่างประเทศรวมถึงในไทย เพราะไม่มีความจำเป็นต้องปอกสาย ตัดสายไฟ หรือดึงไฟจากจุดไฟอื่นๆของรถยนต์ที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องหรือยุ่งกับระบบไฟของรถยนต์

การติดตั้งที่ผิดจะส่งผลเลวร้ายที่สุดคืออาจส่งผลให้มีไฟสถานะแปลกๆขึ้นบนหน้าจอแสดงผลตรงเข็มไมล์ ทำให้ต้องเข้าศูนย์เพื่อปลดล๊อค และศูนย์ก็อาจจะกล่าวโทษ หรือตัดประกันตรงจุดที่มีการตัดต่อได้

สาย Fusetap นี้ ไม่เพียงถูกใช้ในกล้องติดรถยนต์เท่านั้น แต่ถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมายในรถยนต์

ไม่ว่าจะเป็น GPS Tracker (จีพีเอสติดตามรถหาย) , เซนเซอร์ประตูหลังไฟฟ้า , ช่อง USB สำหรับชาร์ตอุปกรณ์ที่เพิ่มบน Console รถยนต์ในภายหลัง เป็นต้น

กลับสู่สารบัญ

 

• Fusetap ที่ดีสำหรับกล้องติดรถหน้าตาเป็นอย่างไร?

หากเราพูดถึงอุปกรณ์ฟิวส์แท็ป (Fusetap) สำหรับกล้องติดรถ ส่วนใหญ่ในตลาดจะมีวางจำหน่ายเป็นปลายด้านหนึ่งเป็นฟิวส์ที่ใช้ต่อกับกล่องฟิวส์ของรถยนต์เดิม

และอีกปลายด้านหนึ่งมักจะเป็นเบ้าเสียบบุหรี่ว่างๆ สำหรับให้เราใช้สายชาร์ตกล้องติดรถยนต์เดิมเสียบแล้วพันสายไฟเก็บได้เลย

ราคาของสายไฟฟิวส์แท็ปนั้นมีตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักหลายร้อยบาท สิ่งที่แตกต่างกันจากประสบการณ์ที่เราทั้งเคยซื้อมาจำหน่ายต่อ จนในที่สุดสั่งผลิตจากโรงงานโดยตรงมีดังนี้

1. ความหนาของทองแดงที่นำมาใช้ สายไฟในอุปกรณ์ราคาถูกมักจะใส่ไส้ทองแดงมาค่อนข้างน้อยเพราะเปลืองงบประมาณ ทำให้การนำไฟฟ้าไม่ดี หรือไม่เสถียร หรือหากมีการกดทับของสายไฟเล็กน้อยก็จะส่งผลให้สายไฟขาดได้ง่าย
2. มีการย้ำสายไฟที่บริเวณสายของเบ้าบุหรี่รถยนต์และปลายสายที่เชื่อมต่อเข้าฟิวส์ การย้ำสายไฟคือการเชื่อมให้สายไฟทั้งสองเส้นได้สัมผัสกัน ซึ่งอาจมีหลายรูปแบบในการเชื่อม อาจจะเป็นการปอกและพันสายไฟด้วยเทปพันสายไฟ , พันสายและเพิ่มตะกั่วบัดกรีเพื่อเหนี่ยวนำไฟฟ้า , หนีบสายไฟให้สัมผัสกันโดยตรง ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นรูปแบบที่ไม่ได้ถูกผลิตประกอบจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐานและผลิตให้สายไฟต่อกันด้วยเครื่องมือแต่แรก ทำให้มีโอกาสที่หากทำไม่เรียบร้อย หรืองานฝีมือไม่ดี โอกาสที่ไฟจะไม่จ่ายเข้าอุปกรณ์ที่พ่วงเพิ่มเข้าไปมีสูงมาก
3. ความยาวของสายไฟที่สั้นเกินไป ซึ่งปกติจะให้มาความยาว 50-60 เซนติเมตร จะส่งผลทำให้อาจจะยาวไม่พอสำหรับรถยนต์ยุโรปหลายรุ่น ที่ตำแหน่งกล่องฟิวส์ในห้องโดยสารอยู่ด้านหลังรถจะเดินสายไฟไปไม่ถึง เช่น ในรถ Mercedes Benz หรือ BMW หลายรุ่น

ปัจจุบันมีหลายผู้จัดจำหน่ายในตลาด ซึ่งผู้หาซื้อ ผู้ติดตั้งก็สามารถเลือกได้ตามงบประมาณ

แต่บริษัทเราเชื่อว่าระบบไฟไม่ใช่เรื่องที่ควรประหยัดไม่กี่สิบบาท (เพราะรถยนต์เราคันหนึ่งหลายแสน – หลายล้านบาท) เราจึงได้รวบรวมประสบการณ์และปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อสั่งโรงงานผู้ผลิตเพื่อเลือกใช้วัสดุที่ดี และได้คุณภาพมาตรฐานระดับ ISO เพื่อกล้องติดรถยนต์โดยตรง

สาย Fusetap ที่ว่านี้ ราคา 300 บาท ต่อชุด พร้อมฟิวส์จากโรงงานผู้ผลิตฟิวส์รถยนต์โดยตรงแบบเดียวกับเกรดที่ศูนย์รถยนต์ใช้เพื่อเพิ่มมั่นใจของผู้ใช้งาน

กลับสู่สารบัญ

• การติดตั้ง Fusetap ส่งผลให้หมดประกันรถยนต์ไหม?

คำถามนี้หากจะตอบให้ถูกต้อง 100% คงต้องถามว่า แล้วเราได้ถามศูนย์รถยนต์ที่ศูนย์ไหน หรือ ผู้ขายเป็นคนที่มีความรู้เรื่องอุปกรณ์ฟิวส์แท็บหรือไม่

สิ่งที่เราตอบคุณได้คือ หากมีการติดตั้งด้วยอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน และผู้ติดตั้งมีความรู้ จะไม่ส่งผลให้ระบบรถยนต์ของคุณมีปัญหาแน่นอน

แต่เซลส์ขายรถ หรือ เจ้าหน้าที่ Call Center อาจไม่ได้มีความรู้ในการหาคำตอบแบบที่คุณกำลังอ่านอยู่ในเว็บไซท์แบบนี้ไปตอบคุณ และหากเกิดปัญหาเค้าก็คงไม่อยากรับผิดชอบในสิ่งนั้น ส่วนใหญ่จึงตอบว่า “หมดประกัน” ไว้ก่อน จึงเป็นความปลอดภัยต่อหน้าที่การงาน

จากความไม่มั่นใจที่ลูกค้าแต่ละท่านกังวล จนกลายเป็นความมั่นใจในปัจจุบัน

ผมสามารถตอบได้ว่าหากคุณโทรไปถามศูนย์รถญี่ปุ่นเช่น Honda , Toyota , Mazda ส่วนใหญ่จะไม่มีการพูดถึงเรื่องการตัดประกันแต่อย่างใด

ในขณะที่รถยุโรป BMW , Mercedes Benz และ แบรนด์รถยนต์ Sport Car อื่นๆ ส่วนใหญ่มักจะตอบว่าการติดตั้งใดๆที่ยุ่งกับระบบไฟรถยนต์ หากศูนย์ตรวจพบจะตัดประกันที่จุดนั้นๆทันที

(ถ้าเรามองในแง่เราเป็นเซลส์ผู้ขาย คันละหลักแสนเราก็ไม่อยากเสี่ยง อันนี้คันละหลายล้านเลยยิ่งอยากปฏิเสธ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้)

แต่อย่างไรก็ตาม มีลูกค้าหน้าร้านเราหลายคนที่เลือกที่จะรับความเสี่ยงนั้น และ ติด Fusetap และจนปัจจุบันก็ไม่ได้ยินลูกค้าเหล่านั้นแจ้งว่าถูกตัดประกันแต่อย่างใด

เพราะความจริงคือ การที่ศูนย์จะตรวจว่าคุณต่อพ่วงอะไรหรือไม่นั้น ไม่ใช่การส่งรถเข้าศูนย์และเขาไปรื้อรถคุณเพื่อดูทุกจุด แต่จะดูต่อเมื่อคุณต่อผิดและเกิดสัญญาณปกติบนหน้าจอแสดงผลของรถต่างหาก

กลับสู่สารบัญ

 

วิธีการติดตั้งด้วยสายต่อตรง (Hardwire)

อุปกรณ์สายต่อตรง หรือที่เรียกกันว่า Hardwire นั้น ถูกผลิตและออกแบบเพื่อใช้สำหรับกล้องติดรถยนต์บางแบรนด์ และบางรุ่น เพื่อจ่ายไฟเลี้ยงกล้องติดรถยนต์แบบสายเสียบช่อง Power Socket ปกติ

นอกจากนี้ยังเอื้อประโยชน์ให้กล้องหน้ารถรุ่นนั้นๆ ใช้ Parking Mode (โหมดจอดรถ) เพื่อดึงไฟจากรถยนต์มาใช้บันทึกหลังจากดับเครื่องยนต์ได้ด้วย

รู้ไหมว่าไม่ใช่กล้องทุกรุ่นจะบันทึกตอนจอดได้ และโหมดจอดรถในกล้องแต่ละรุ่นทำงานไม่เหมือนกัน สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่

สายต่อตรงของกล้องติดรถยนต์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ และมีการทำงานที่แตกต่างกันไป

แต่การทำงานหลักๆ คือ การใช้ปลายสายอุปกรณ์ชนิดนี้ต่อกับเข้าสายไฟในรถ หรือ ฟิวส์รถยนต์เพื่อดึงไฟจากบางระบบมาใช้เลี้ยงกล้องให้ทำงานช่วงจอดรถนั่นเอง

เนื่องจากสาย Hardwire ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบปลายสายเปลือย คือไม่เข้าหัว Fuse tap มาให้ ทำให้หากไม่ซื้ออุปกรณ์หัว Fusetap เพิ่ม

คุณจะต้องให้ช่างทำการปอกสายไฟเดิมและพันสายไฟ ซึ่งอาจจะไม่สะดวก ไม่เรียบร้อยหรือไม่ปลอดภัยในอนาคต เราจึงอยากแนะนำให้เข้าหัวฟิวส์แท็บให้เรียบร้อยด้วยจะดีกว่า

ข้อสังเกตคือ แม้ว่าเราอยากใช้งานโหมดจอดรถ เราก็ต้องแลกกับการพ่วงสาย Hardwire กับ กล่องฟิวส์ในห้องโดยสารอยู่ดี

ซึ่งในรถบางรุ่น บางศูนย์ก็อาจติดปัญหาเรื่องการส่งผลต่อประกันรถหรือไม่อีกในภายหลัง หากคุณไม่มั่นใจเรื่องนี้ หรือไม่มั่นใจในเรื่องความเรียบร้อยของร้านติดกล้องรถยนต์ อาจต้องลองสอบถามศูนย์หรือหาร้านติดกล้องหน้ารถที่ไว้ใจได้เป็นหลัก

กลับสู่สารบัญ

วิธีการติดตั้งด้วยสาย OBD Power II

ในรถตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมาล้วนมีช่อง OBD สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่จำเป็นของศูนย์บริการรถยนต์

ช่อง OBD เป็นช่องที่มีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมคางหมู และมักติดตั้งอยู่ใต้คอนโซลพวงมาลัย การติดตั้งสายไฟ OBD Power จึงเป็นการติดตั้งที่ไม่ต่างจากการเสียบสายชาร์ตกล้องติดรถเข้าช่องจุดบุหรี่

เมื่อไม่ใช้ก็เพียงถอดออก ซึ่งสามารถทำได้ง่ายด้วยตัวเอง และไม่ต้องยุ่งกับระบบไฟของรถให้วุ่นวาย หรือส่งผลให้ศูนย์ตัดประกัน

จึงเป็นวิธีที่เรียกได้ว่า ไม่จำเป็นต้องอาศัยความรู้ใดๆของช่าง เพียงเสียบก็ใช้ได้ทันที

ทำให้ศูนย์รถยนต์ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น หรือ ยุโรป ล้วนได้รับคำตอบแทบจะ 100% เลยว่า ติดตั้งรูปแบบนี้ได้เลย

การติดตั้งด้วยสาย OBD ยังมีข้อดีอีกอย่างคือ สามารถดึงไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์มาให้กล้องบันทึกขณะจอดรถยนต์ได้เหมือนสาย Hardwire แต่ลดความเสี่ยงเรื่องการยุ่งกับระบบไฟที่กล่องฟิวส์

แต่จะมีข้อด้อยคือ กล้องติดรถยนต์ในบ้านเราแทบ 99% มักไม่มีอุปกรณ์ที่ทำมาใช้งานช่อง OBD เลย

และที่มีขายในปัจจุบันก็ล้วนเป็นสาย OBD ที่ผลิตจากประเทศจีน โดยผู้จัดจำหน่ายแบบไม่มีแบรนด์ ฉะนั้นจึงไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่า สายไฟชนิดนี้ปลอดภัยต่อการใช้งานในระยะยาวหรือไม่ และจะเกิดความเสี่ยงจากการลุกไหม้หรือไม่

ปัจจุบันกล้องติดรถยนต์ที่มีอุปกรณ์สาย OBD Power ขาย จะมีเพียงแบรนด์เดียวในไทย คือ IROAD ซึ่งเป็นแบรนด์จากกล้องติดรถยนต์เกาหลี

ข้อสังเกตที่น่าสนใจ

สาย OBD Power จะถูกแบ่งออกเป็น OBD สำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน กับ OBD สำหรับรถที่เป็น Hybrid หรือ รถไฟฟ้า

ซึ่งความเสถียร และการทำงานจะแตกต่างกัน ฉะนั้นจึงต้องใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับรุ่นรถยนต์ด้วยนะครับ

กลับสู่สารบัญ

เราสามารถติดกล้องติดรถเองได้ไหม?

ได้ครับหากคุณเชี่ยวชาญเรื่องการรื้อ แกะ ประกอบชิ้นส่วนที่จำเป็นต่อการเดินช่วงสายไฟของรถยนต์ และคุณรู้ว่าฟิวส์ที่คุณต่อทำงานอะไร จ่ายไฟ ตัดไฟเมื่อไหร่

ปัจจุบันมีร้านขายกล้องติดรถจำนวนหนึ่งที่ผลิต Content คุณภาพดีให้ความรู้ที่เอื้อประโยชน์กับผู้ซื้อกล้องติดรถใน Youtube

ซึ่งคุณสามารถค้นหาข้อมูล ดูแล้วลองประเมินความสามารถ ความเสี่ยง แล้วลองทำเองได้เลย

ทางบริษัทเราเองก็มีคลิปวิดีโอสอนการติดตั้งกล้องหน้ารถด้วยตัวเองในรถยนต์หลายรุ่นมากมาย คุณสามารถหาความรู้ได้ใน Playlist นี้เลยครับ

ก่อนการติดตั้งดำเนินการใดๆด้วยตัวเอง พึงประเมินรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากผิดพลาดด้วยนะครับ

ผมเองเคยเป็นคนหนึ่งที่เคยรับงานติดตั้ง เดินสายกล้องหน้ารถให้ลูกค้าหลายร้อยคัน จนเมื่ออายุมากขึ้น ทำงานต่างๆได้ช้าลง

และรถรุ่นใหม่มีจุดประกอบที่แน่นหนากว่าเดิม ทำให้ร้างรามือไป แต่หากคุณพร้อม ลองดูตามคลิปมากมายแล้วลองประเมินความเสี่ยงดูครับ

กลับสู่สารบัญ

วิธีติดตั้งที่ไม่แนะนำและข้อควรระวังในการติดตั้งกล้องหน้ารถที่ร้านรับติดกล้องชอบทำกัน

ก่อนจากลากัน ผมเชื่อว่าข้อมูลที่ผมให้น่าจะเป็นประโยชน์ จนบางครั้งทำให้บางคนไม่กล้าติดตั้งเอง แต่ไปว่าจ้างร้านรับติดกล้องติดรถ ติดตั้งแทน

ผมเลยขออนุญาตรวบรวม “ความชุ่ย” ของ ร้านขายกล้องติดรถ หรือ ร้านประดับยนต์ ที่ไม่ได้มาตรฐาน มาเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกท่านดูพึงระวัง และหากเป็นไปได้กรุณาตรวจเช็คกับผู้ติดตั้งด้วยว่าจะมีเหตุการณ์ตามภาพเหล่านี้เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณหรือไม่ เพราะ หากคุณต้องเสียเงินแล้วได้งานติดตั้งในระดับนี้ ผมคิดว่าคุณควรรีบหาร้านติดตั้งที่ดีกว่าโดยด่วนครับ

กลับสู่สารบัญ

 

ค่าติดตั้งกล้องติดรถยนต์ราคาเท่าไหร่?

ค่าบริการติดตั้งกล้องหน้ารถ ของแต่ละร้านขายกล้องติดรถ หรือร้านรับติดกล้องรถยนต์ ล้วนแตกต่างกัน ตามฝีมือ ความเชี่ยวชาญ สถานที่ และความรับผิดชอบของผู้ติดตั้ง

เพราะงานติดตั้ง ถือเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ถ้าให้เปรียบเทียบก็คล้ายช่างตัดผม หรือช่างตัดเสื้อ ที่ล้วนเรียกค่าแรงที่เสียเวลาติดตั้งให้คุณแตกต่างกัน

ฉะนั้นเมื่อพูดถึงงานฝีมือ จึงไม่มีราคาที่เท่ากันในแต่ละร้านค้า คล้ายกับการที่เราคงไม่สามารถให้ร้านตัดผมชื่อดังที่ตัดหัวละหลายพันบาท คิดเงินค่าตัดผมให้เราเท่าร้านบาร์เบอร์ที่ตัดผมทรงนักเรียนให้เราตอนศึกษามัธยมได้นั่นเอง

ราคากลางของงานติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์

งานติดตั้งเฉพาะกล้องหน้ารถ 100 – 500 บาท
งานติดตั้งกล้องหน้าและหลังรถ 200 – 1,500 บาท
งานติดตั้งกล้องหน้าหลังและต่อไฟถอยหลังรถยนต์ 300 – 1,500 บาท

ลองมองหาร้านติดตั้งที่ไว้ใจได้จะดีที่สุด เพราะ หลายครั้งที่บริษัทเราพบว่า มีลูกค้าหลายคนติดต่อมาให้แก้งาน ที่ช่างเดิมเดินระบบไฟให้ไม่เรียบร้อย

ทั้งไฟสัญลักษณ์ขึ้นเตือน ขับรถไปเบรคกระตุก หรือกล้องดับทุกครั้งที่เหยียบเบรคก็มี

พูดตามตรงว่า ไม่มีร้านไหนอยากรับแก้ไขงานที่ตัวเองไม่รู้หรอกครับ ว่าร้านเดิมทำอะไรไว้ เพราะ งานแก้ไขมักแพงและใช้เวลามากกว่างานติดตั้งใหม่เสมอ

กลับสู่สารบัญ

 

บทสรุป

การติดกล้องหน้ารถนั้นมีหลายแบบหลายวิธี และไม่มีรูปแบบไหนที่ดีที่สุดของทุกคนที่ใช้งาน
โดยส่วนตัวผมมักแนะนำลูกค้าหน้าร้านเสมอว่า คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อคนขาย แต่ให้ฟังที่อธิบายก่อนว่าแต่ละแบบจะเหมาะกับการใช้งานและคุณได้ประโยชน์อย่างไร

แบบมาตรฐาน
ข้อดี : ค่าติดตั้งถูก หากกล้องติดรถยนต์ไฟไม่เข้า ไม่ทำงาน สามารถเช็คง่ายที่สุดเพราะหากมีปัญหาก็สามารถดูสถานะไฟ LED บนสายชาร์ตกล้องติดรถได้เลย ซึ่งต่างจากแบบอื่นๆที่ซ่อนสายจนอาจจะไม่สะดวกในการก้ม หรือ ค้นหาตำแหน่งที่ช่างติดตั้งซ่อนสายไว้อย่างดี
ข้อเสีย : ปลายสายจะถูกเสียบคาไว้ตลอดเวลา หากมีอุปกรณ์ที่ต้องชาร์ตเยอะ จะทำให้เกะกะมาก ในรถยนต์เช่นรถยุโรปช่องจุดบุหรี่มักอยู่ในบานพับ ซึ่งการเปิดช่องค้างไว้พร้อมเสียบสายจะทำให้ไม่สามารถปิดบานพับได้ ทำให้ฝุ่นเข้าสกปรก และไม่สวยงาม

แบบซ่อนปลายสายชาร์ตด้วยฟิวส์แท็ปที่กล่องฟิวส์ในห้องโดยสาร
ข้อดี : ไม่เกะกะ ไม่ต้องมีสายไฟใดๆเสียบกับช่องบุหรี่ (Power Socket) เดิมของรถเลย
ข้อเสีย : อาจส่งผลต่อเรื่องประกันรถยนต์หากศูนย์ไม่ยอมรับในรูปแบบการต่อ หรือต่อแล้วเกิดปัญหากับระบบไฟฟ้าของรถ
ฉะนั้นต้องมั่นใจว่าร้านที่ติดตั้งให้มีความรู้ ไม่ตัดต่อเพื่อประหยัดค่าอุปกรณ์ หรือปอกสายไฟในจุดหรือระบบไฟที่เป็นระบบปลอดภัยของรถยนต์

แบบใช้สายต่อตรง Hardwire
ข้อดี : กล้องสามารถบันทึกขณะจอดด้วยโหมดจอดรถ (Parking Mode) ได้
ข้อเสีย : เหมือนการต่อแบบ Fusetap

แบบ OBD
ข้อดี : เรียบร้อยที่สุด และไม่เสี่ยงกับการตัดประกันของศูนย์รถ
ข้อเสีย : หาอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานยาก ส่วนที่มีมาตรฐานราคาก็มักจะสูงและต้องใช้คู่กับกล้องราคาสูง (เช่น iROAD OBD ต้องใช้กับ กล้องติดรถ iROAD)

แบบตัดต่อสายไฟ หรือบัดกรีตะกั่วที่หัวสายชาร์ต
ข้อดี : ถูก ประหยัด ช่างทุกคนที่ร้านประดับยนต์ทำเป็น
ข้อเสีย : งานอาจไม่เรียบร้อย และไม่มีฟิวส์แยกเพื่อควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ ซึ่งหากอุปกรณ์ที่พ่วงทำงานผิดพลาดหรือลัดวงจร ทั้งวงจรที่ต่อพ่วงจะมีปัญหาทั้งระบบ

เราจะเห็นได้ว่ารูปแบบการติดตั้งกล้องติดรถ มีหลายรูปแบบ และแต่ละแบบก็มีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกัน

ผู้สนใจควรศึกษาความต้องการของตัวเอง ยอมรับข้อดี ข้อเสียของแต่และแบบ และเลือกร้านติดตั้งที่ไว้ใจได้ก่อนตัดสินใจติดตั้งกล้องติดรถ

บางครั้งค่าติดตั้งที่เราฟังดูแพง ทำเองก็ได้ ทำไมต้องคิดเงิน หรือ ร้านนู้นนี้คิดถูกกว่า

อาจเป็นเพียงเพราะว่า คุณโชคดี ที่ไม่เคยเห็นประสบการณ์เจอร้านติดตั้งไม่ดีแบบที่เรามักเจอลูกค้าแจ้งให้ฟังเป็นประจำแทบทุกวันก็ได้ครับ

อ่านต่อเรื่องราวที่คุณอาจสนใจ :
ซื้อกล้องติดรถยนต์หน้าหลังรุ่นไหนดี?